วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2566

How to สูตร วิธีทำ หมกหัวปลี ใส่ไก่ หมกไก่ ใส่หัวปลี เมนูไม่อ้วน เมนูเรียกน้ำนม เมนูไก่ เมนูหัวปลี สูตรอาหาร บ้านฟินฟิน finfincooking barnfinfin ห่อหมก หัวปลี หมกไก่ หมกหัวปลี

 หมกหัวปลี ใส่ไก่
มีคลิปวิดีโอการทำด้านล่างนะคะ 


ส่วนผสม / Ingredients

พริกแกง (ข้อ 1-7 )

  1. พริกแห้ง 15 กรัม / 15 g. Dried Chili.
  2. เกลือสมุทร 2 ช้อนชา / 2 tsp. Sea Salt.
  3. ข่า 40 กรัม / 40 g. Galangal.
  4. ตะไคร้  60 กรัม  / 60 g. Lemongrass. 
  5. หอมแดง 100 กรัม / 100 g. Shallots.
  6. กระเทียม 71 กรัม / 71 g. Garlic.
  7. ข้าวเบือ 100 กรัม  /  100 g. Glutinous rice soaked water.
    * ข้าวเบือ คือ ข้าวเหนียวแช่น้ำให้นิ่มพอโขลกให้ละเอียดได้ ใส่เพื่อให้หมกปลามีความข้น มีความเหนียว

  8. เนื้อไก่หั่นชิ้น 800 กรัม / 800 g. Chicken cartilage.
  9. ไข่ไก่ 2 ฟอง / 2 Egg. Chicken egg.
  10. น้ำปลาร้า 6 ช้อนโต๊ะ / 6 tbsp. Fermented Fish Sauce.
  11. น้ำปลาแท้ 1 ช้อนโต๊ะ / 1 tbsp. Premium Fish sauce.
  12. หัวปลี 1200 กรัม / 1200 g. Banana blossom.
  13. ใบแมงลัก 40 กรัม / 40 g. Hairy basil.
  14. ใบมะกรูด 15 กรัม / 15 g. Kaffir lime leaves.

    * เพิ่มผงชูรสได้ตามชอบ

ขั้นตอนการทำ

  • ขั้นตอนการเตรียม
  • นำข้าวเหนียวแช่น้ำ (ข้าวเบือ)
  • หั่นไก่เป็นชิ้นพอคำ แล้วพักไว้
  • เตรียมอ่าง ขยำมะขามเปียก 50 กรัม กับน้ำสะอาด 2 ลิตร เตรียมน้ำมะขาม ไว้สำหรับแช่หัวปลี (ช่วยไม่ให้หัวปลีดำ) 
  • หั่น ซอย หัวปลี แล้วนำไปแช่ในน้ำมะขามเปียก 
  • ซอยข่า ตะไคร้ เพื่อให้ง่ายต่อการโขลก
  • แกะ หอมแดง กระเทียม แล้วล้างให้สะอาด
  • ล้างใบมะกรูด ให้สะอาดแล้วฉีกเป็นชิ้น ๆ 
  • เด็ดใบแมงลัก ล้างให้สะอาดแล้วพักไว้

  • ทำพริกแกง โขลกหรือปั่น ส่วนผสมข้อ 1-7 เข้าด้วยกันให้ละเอียด * หากโขลกข้าวเบือแยกโขลกก็ได้นะคะ จะได้โขลกง่ายขึ้น

  • เตรียมอ่างผสม  
  • ใส่พริกแกงที่โขลกหรือปั่นไว้ ในอ่างผสม ตามด้วย ไข่ไก่ น้ำปลาร้า น้ำปลา แล้ว คนผสมให้เข้ากัน 
  • จากนั้นใส่ไก่ ตามด้วย ข้าวเบือ หัวปลี  และใบมะกรูด คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  • แล้วใส่ใบแมงลัก คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
  • นำไปห่อไปตอง  แล้วนำไปนึ่งจนสุกใช้เวลาประมาณ  30 นาที  
    ใบตอง ตากแดดให้นิ่มก่อน จะห่อง่ายค่ะ ถ้าเก็บมาสด ๆ ห่อเลยจะแตกค่ะ 

คลิปวิดีโอ วิธีการทำ




................................................................


หมกหัวปลี เอ็นข้อไก่


สูตรอีสาน แบบใส่ปลาร้านะคะ  สำหรับทางอีสานเอง แต่ละจังหวัด แต่ละบ้านก็อาจจะทำแตกต่างกัน ตามความชอบ สูตรที่บ้านก็จะประมาณนี้ ลองทำดูนะคะ เผื่อจะชอบเหมือนกัน หากไม่ทานปลาร้า เปลี่ยนเป็นน้ำปลาได้เลยนะคะ หากชอบกะทิก็ใส่ได้ อีกเหมือนกัน แล้วแต่ชอบ แต่ทางบ้านเจี๊ยบจะไม่ใช่กะทินะคะ 

มีคลิปวิดีโอการทำด้านล่างนะคะ 



ส่วนผสม / 
Ingredients

พริกแกง (ข้อ 1-7 )
  1. พริกแห้ง 10 กรัม / 10 g. Dried Chili.
  2. เกลือสมุทร 1 ช้อนชา / 1 tsp. Sea Salt.
  3. ข่า 20 กรัม / 20 g. Galangal.
  4. ตะไคร้  30 กรัม  / 30 g. Lemongrass. 
  5. หอมแดง 50 กรัม / 50 g. Shallots.
  6. กระเทียม 35 กรัม / 35 g. Garlic.
  7. ข้าวเบือ 50 กรัม  /  50 g. Glutinous rice soaked water.
    * ข้าวเบือ 
    คือ ข้าวเหนียวแช่น้ำให้นิ่มพอโขลกให้ละเอียดได้ ใส่เพื่อให้หมกปลามีความข้น มีความเหนียว

  8. เอ็นข้อไก่ 500 กรัม / 500 g. Chicken cartilage.
  9. ไข่ไก่ 1 ฟอง / 1 Egg. Chicken egg.
  10. น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ / 3 tbsp. Fermented Fish Sauce.
  11. น้ำปลาแท้ 1/2 ช้อนโต๊ะ / 1/2 tbsp. Premium Fish sauce.
  12. หัวปลี 650 กรัม / 650 g. Banana blossom.
  13. ใบแมงลัก 25 กรัม / 25 g. Hairy basil.
  14. ใบมะกรูด 10 กรัม / 10 g. Kaffir lime leaves.

    * เพิ่มผงชูรสได้ตามชอบ


ขั้นตอนการทำ

  • ขั้นตอนการเตรียม
  • นำข้าวเหนียวแช่น้ำ (ข้าวเบือ)
  • นำเอ็นข้อไก่ ขยำเกลือเพื่อลดความคาว แล้วล้างให้สะอาด เสร็จแล้วพักไว้
  • เตรียมอ่าง ขยำมะขามเปียก 50 กรัม กับน้ำสะอาด 2 ลิตร เตรียมน้ำมะขาม ไว้สำหรับแช่หัวปลี
  • หั่น ซอย หัวปลี แล้วนำไปแช่ในน้ำมะขามเปียก เพื่อไม่ให้หัวปลีดำ 
  • ซอยข่า ตะไคร้ เพื่อให้ง่ายต่อการโขลก
  • แกะ หอมแดง กระเทียม
  • ฉีกใบมะกรูด
  • เด็ดใบแมงลัก ล้างให้สะอาดแล้วพักไว้
  • ทำพริกแกง โขลกหรือปั่น ส่วนผสมข้อ 1-7 เข้าด้วยกันให้ละเอียด
  • เตรียมอ่างผสม  
  • ใส่พริกแกงที่โขลกหรือปั่นไว้ ในอ่างผสม ตามด้วย น้ำปลาร้า น้ำปลา ไข่ไก่ แล้ว คนผสมให้เข้ากัน 
  • จากนั้นใส่ไก่  ตามด้วย หัวปลี  และใบมะกรูด คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  • จากนั้นใส่ใบแมงลัก คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
  • นำไปห่อไปตอง  แล้วนำไปนึ่งจนสุกใช้เวลาประมาณ  30 นาที  
    ใบตอง ตากแดดให้นิ่มก่อน จะห่อง่ายค่ะ ถ้าเก็บมาสด ๆ ห่อเลยจะแตกค่ะ 




คลิปวิดีโอ วิธีการทำ



สามารถติดตามเจี๊ยบได้ทางช่องทางอื่น 
ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ 
:









วันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2566

How to สูตร วิธีทำ ตะโก้ เผือก มันม่วง ขนมไทย ของหวานไทย สูตรอาหาร ขนมหวาน บ้านฟินฟิน finfincooking barnfinfin

 ตะโก้ เผือก มันม่วง

*   มีคลิปวิดีโอวิธีการทำ อยู่ด้านล่างนะคะ 




ตัวตะโก้ เผือก มันม่วง

ส่วนผสม / Ingredients

1. แป้งข้าวเจ้า 80 กรัม กรัม / 80 g. Rice Flour.
2. แป้งมันสำปะหลัง 50 กรัม กรัม / 50 g. Tapioca Starch.
3. แป้งถั่วเขียว 30 กรัม / 30 g.  Mung bean Starch.
3. เผือกหั่นเต๋าต้มสุก 250 กรัม / 250 g. Boiled diced taro.
   แบ่งไว้แต่งหน้าตะโก้ ประมาณ 70 ชิ้น
4. มันม่วงหั่นเต๋าต้มสุก 100 กรัม / 100 g. Boiled purple sweet potato.
   แบ่งไว้แต่งหน้าตะโก้ ประมาณ 70 ชิ้น
5. น้ำเปล่า 1500 มิลลิลิตร / 1500 ml. Water.
6. น้ำตาลทราย 300 กรัม / 300 g. Sugar.
7. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา / 1/2 tsp. Sea Salt.


  • ขั้นตอนการเตรียม
  • ปอก เผือก มันม่วง  หั่น เป็นลูกเต๋าเล็ก เสร็จแล้วล้างทำความสะอาดหลายน้ำ (เผือก จะคันมือ นะคะ แนะนำให้ใส่ถุงมือปอกล้าง) 
  • นำเผือก และ มันม่วง ที่หั่นไว้ ไปต้ม หรือ นึ่งจนสุก เจี๊ยบต้ม แยกกันนะคะ เพราะเจี๊ยบจะใช้ชิ้นมันแต่งหน้าตะโก้ด้วย ไม่อยากให้สีมันม่วง กลืนกินสีเผือกค่ะ

  • กวนตัวตะโก้
  • นำน้ำสะอาด 1500 มิลลิลิตร ใส่กระทะ ตามด้วย เกลือสมุทร น้ำตาลทราย แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง แป้งถั่วเขียว แล้วคนผสมให้เข้ากัน
  • นำกระทะขึ้นตั้งไฟ กวนด้วยไฟกลาง กวนจนแป้งสุก 
  • พักไว้ให้อุ่นขึ้น จากนั้นนำไปกระทงใบเตย เสร็จแล้วพักไว้ 
หน้าตะโก้ กะทิ 
ส่วนผสม / Ingredients

1. กะทิ 1000 มิลลิลิตร 1000 ml. Coconut Milk.
2. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม 100 g. White Sugar.
3. แป้งข้าวเจ้า 30 กรัม30 g. Rice Flour.
4. แป้งมันสำปะหลัง 30 กรัม /
30 g. 
Tapioca Starch.  
5. แป้งถั่วเขียว 30 กรัม / 30 g. Mung bean Starch.
6. น้ำสะอาด 150 มิลลิลิตร150 ml. Water.
7. เกลือสมุทร 1 ช้อนชา 1 tsp. Sea Salt.


  • ขั้นตอนการทำหน้าตะโก้

  • เตรียมกระทะสำหรับกวน ร่อนแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และ แป้งถั่วเขียว ลงในกระทะ (การร่อนแป้งจะทำให้คนส่วนผสมให้เข้ากันได้ง่ายขึ้น แป้งไม่จับกันเป็นก้อน หน้าตะโก้เนียนสวยค่ะ) 
  • ใส่น้ำสะอาด คนให้ส่วนผสมเข้ากัน **
  • ใส่ กะทิ น้ำตาลทราย เกลือ คนให้สวนผสมเข้ากัน 
  • นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อน กวนจนส่วนผสมสุกข้น ปิดไฟเตา ยกลง นำไปหยอดบนตัวตะโก้ 

    ** การละลายแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง แป้งถั่วเขียว กับน้ำก่อน ค่อยนำ กะทิและส่วนผสมอื่นลงคนผสมให้เข้ากัน จะทำให้คนให้เข้ากันง่ายกว่า การนำแป้งข้าวเจ้าลงคนกับกะทิโดยตรงค่ะ

คลิปวิดีโอ วิธีการทำ



สามารถติดตามเจี๊ยบได้ทางช่องทางอื่น 
ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ 
:











วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2566

How to สูตร วิธีทำ ขนมต้ม สามสี ขนมต้มใบเตย ขนมต้มอัญชัน ขนมต้มสีขาว ขนมไทย ของหวานไทย สูตรอาหาร ขนมหวาน ของหวาน บ้านฟินฟิน finfincooking barnfinfin

 ขนมต้ม ไส้มะพร้าวน้ำตาลไหม้

ไส้ขนม จะหอมกลิ่นน้ำตาลไหม้ คล้าย ๆ อบควันเทียน แต่ไม่ใช่  ใครไม่ชอบกลิ่นควันเทียน 

ลองกลิ่นน้ำตาลไหม้ดูนะคะ เผื่อจะหลงรัก ขนมไทย กลิ่นน้ำตาลไหม้ แบบเจี๊ยบ

*   มีคลิปวิดีโอวิธีการทำ อยู่ด้านล่างนะคะ




ไส้ขนม  (ปั้นไส้ขนม 5 กรัม ปั้นได้ประมาณ 60 ลูก)

1. มะพร้าวขูด 250 กรัม 
/ 250 g. Grated coconut.
2. น้ำตาลมะพร้าว 250 กรัม / 250 g. Coconut Palm Sugar
3. เกลือสมุทร  ( 1 กรัม) 1/4 ช้อนชา   / (1 g.) 1/4 tsp. Sea Salt.
4. น้ำสะอาด 200 มิลลิลิตร / 200 ml. Water.



ผัดไส้ขนม

เคี่ยวน้ำตาลให้ไหม้  ให้ไส้ขนมหอมกลิ่นน้ำตาลไหม้  
แทนการอบควันเทียน ใครชอบกลิ่นอบควันเทียน นำไส้ขนมไปอบควันเทียนก่อนห่อ ได้ตามชอบนะคะ

  • นำกระทะตั้งไฟให้ร้อน นำน้ำตาลมะพร้าวลงละลายในกระทะ คนไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลเริ่มไหม้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม (ระวังน้ำตาลไหม้เกินไปจะทำให้ไส้ขนมขม นะคะ หากไม่มั่นใจใช้น้ำตาลมะพร้าวผสมน้ำตาลทรายแดงช่วยให้ไส้ขนมสีเข้มสวยแทนก็ได้ค่ะ หากเคี่ยวน้ำตาลได้ความไหม้ที่พอดี จะทำให้ได้กลิ่นน้ำตาลไหม้หอมอ่อน ๆ ฟินมากค่ะ) 
  • หลังจากเคี่ยวน้ำตาลได้สีเข้มแล้ว ใส่น้ำสะอาด หลังจากใส่น้ำลงไปแล้วน้ำตาลจะแข็งจับเป็นก้อน ต้ม / คน จนน้ำตาลละลายอีกครั้ง 
  • จากนั้น ใส่มะพร้าวขูด ตามด้วยเกลือสมุทรป่น ผัดให้เข้ากัน  ผัดไส้ขนมไม่ให้แห้งมาก ให้มีน้ำฉ่ำ ๆ อยู่บ้าง หากผัดไส้ขนมแห้งไป เวลานึ่งขนมออกมาแล้วไส้จะแห้ง ๆ ดูไม่ฉ่ำไม่น่ากิน แต่หากผัดไส้ฉ่ำไปก็จะปั้นไส้ขนมเป็นก้อนได้ยากหน่อยนะคะ
  • หลังจากผัดไส้ขนมเสร็จแล้ว นำไส้ขนม เข้าแช่ในตู้เย็นข้ามคืน การแช่ไส้ขนมในตู้เย็นข้ามคืน จะทำให้ปั้นไส้ขนมเป็นก้อนได้ง่ายขึ้น แช่หลายคืนยิ่งปั้นง่ายค่ะ (แต่หากผัดไส้ฉ่ำไปก็อาจจะปั้นยากหน่อยนะคะ) การปั้นไส้ขนมเป็นก้อน ทำให้ห่อขนมง่ายขึ้นค่ะ 
  • หลังจากแช่ไส้ขนมแล้ว นำไส้ที่สามารถปั้นได้แล้ว มาปั้นเป็นก้อนละ 5 กรัม






มะพร้าวสำหรับคลุก
1. มะพร้าวขูด 250 กรัม/ 250 g. Grated coconut.
2. เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา /  1/2 tsp. Sea Salt.
  • คลุกมะพร้าวกับเกลือ แล้วนำไปนึ่ง 20-30 นาที เพื่อให้มะพร้าวสุกดี การนึ่งมะพร้าวให้สุก จะทำให้มะพร้าวที่นำมาคลุกกับตัวขนม ไม่เสียไวค่ะ  
  • นึ่งสุกแล้วผึ่งไว้ให้เย็น 


แป้งห่อไส้ขนม  (ปั้นแป้ง 10 กรัม)

** ตอนนวดแป้งสามารถใช้น้ำเย็นได้นะคะ น้ำเย็นเจี๊ยบว่าแป้งนุ่มกว่า ต้มสุกง่ายกว่า ....แต่จะปั้นยากกว่านวดน้ำร้อน นวดน้ำร้อนจะปั้นง่าย แต่ใช้เวลาต้มนานหน่อยกว่าแป้งจะสุกนุ่ม **


แป้งสีขาว

1. แป้งข้าวเหนียว 125 กรัม  125 g. Glutinous Rice flour.
2. น้ำร้อน 90 มิลลิลิตร / 90 ml. Hot Water.
  • นำแป้งใส่ชามผสม ตามด้วย น้ำร้อน ใช้ไม้พายคนผสมแป้งกับน้ำร้อน พอน้ำอุ่นขึ้นใช้มือนวดให้เข้ากัน  ระหว่างนวดหากแป้งติดมือ เติมแป้งแห้งได้เรื่อย ๆ นะคะ จนกว่าแป้งจะไม่ติดมือ
  • นวดแป้งเสร็จแล้วนำแป้งใส่กระปุกปิดฝาไว้ แป้งจะได้ไม่แห้ง

แป้งสีน้ำเงิน

1. แป้งข้าวเหนียว 125 กรัม  125 g. Glutinous Rice flour.
2. น้ำอัญชันร้อน 90 มิลลิลิตร / 90 ml. Hot butterfly pea juice.
  • นำแป้งใส่ชามผสม ตามด้วย น้ำอัญชันร้อน ช้ไม้พายคนผสมแป้งกับน้ำอัญชันร้อน พอน้ำอุ่นขึ้นใช้มือนวดให้เข้ากัน  ระหว่างนวดหากแป้งติดมือ เติมแป้งแห้งได้เรื่อย ๆ นะคะ จนกว่าแป้งจะไม่ติดมือ
  • นวดแป้งเสร็จแล้วนำแป้งใส่กระปุกปิดฝาไว้ แป้งจะได้ไม่แห้ง

แป้งสีเขียว

1. แป้งข้าวเหนียว 125 กรัม  125 g. Glutinous Rice flour.
2. น้ำร้อน 50 มิลลิลิตร / 50 ml. Hot Water.
3. น้ำใบเตย 40 มิลลิลิตร / 40 ml. Pandan juice.
  • นำแป้งใส่ชามผสม ตามด้วย น้ำร้อน ใช้ไม้พายคนผสมแป้งกับน้ำร้อน จากนั้นใส่น้ำใบเตย แล้วใช้มือนวดให้เข้ากัน ระหว่างนวดหากแป้งติดมือ เติมแป้งแห้งได้เรื่อย ๆ นะคะ จนกว่าแป้งจะไม่ติดมือ
  • นวดแป้งเสร็จแล้วนำแป้งใส่กระปุกปิดฝาไว้ แป้งจะได้ไม่แห้ง



ห่อไส้ขนม
  • ปั้นแป้ง 10 กรัม แล้วนำไปห่อไส้ขนมที่ปั้นไว้ 
  • จากนั้นนำไปต้มจนสุก  แนะนำให้ปั้นไปต้มไปนะคะ แป้งที่ห่อไส้จะได้ไม่แห้งไม่แตก 




คลิปวีดีโอ วิธีการทำ





สามารถติดตามเจี๊ยบได้ทางช่องทางอื่น 
ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ 
: