วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

็็How to แกงเผ็ด หมู สับปะรด สูตรอาหาร บ้านฟินฟิน finfincooking barnfinfin

แกงเผ็ดหมูสับปะรด

*   มีคลิปวิดีโอวิธีการทำ อยู่ด้านล่างนะคะ



ส่วนผสม / Ingredients
  1. หัวกะทิ 250 มิลลิลิตร / 250 ml. Thick coconut milk.
  2. พริกแกงเผ็ด 100 กรัม / 100 g. Red Curry Paste. * 
  3. สันคอหมู 500 กรัม / 500 g. Pork shoulder.
  4. น้ำสะอาด 500 มิลลิลิตร / 500 ml. Water.
  5. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ / 2 tbsp. Fish Sauce.
  6. น้ำตาลมะพร้าว 10 กรัม / 10 g. Coconut palm sugar.
  7. สับปะรด 900 กรัม / 900 g. Pineapple.
  8. พริกแดงซอย 30 กรัม / 30 g. Sliced Red Chili.
  9. ใบมะกรูดฉีก 5 กรัม / 5 g. Kaffir lime leaves.
  10. ใบโหระพา 5 กรัม / 5 g. Sweet basil leaves.

* พริกแกงเผ็ด / Red Curry Paste
  1. พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเม็ด* แช่น้ำ 10 กรัม / 10 g. Dried chili.
  2. ข่า 10 กรัม / 10 g. Galangal.
  3. ตะไคร้ 10 กรัม / 10 g. Lemon Grass.
  4. ผิวมะกรูด 5 กรัม / 5 g. Kaffir lime peel.
  5. รากผักชี 10 กรัม / 10 g. Coriander root.
  6. หอมแดง 22 กรัม / 22 g. Shallots.
  7. กระเทียม 15 กรัม / 15 g. Garlic.
  8. พริกไทยเม็ดขาว 4 กรัม / 4 g. White peppercorn.
  9. เกลือสมุทร 4 กรัม / 4 g. Sea Salt.
  10. กะปิ 10 กรัม / 10 g. Shrimp paste.

    * พริกแห้ง 10 กรัม ชั่งหลังจากแกะเม็ด ก่อนแช่น้ำ
    * พริกแกงเผ็ดจะใส่ เม็ดผักชี เม็ดยี่หร่าไปด้วยก็ได้นะคะ ถ้าชอบ ส่วนเจี๊ยบ ถ้าใส่ก็จะใส่นิดเดียว แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใส่ค่ะ แต่ถ้าเป็นแกงแพนง ก็จะใส่นิดหน่อย ถ้าไม่ชอบกลิ่นเครื่องเทศตัวไหนก็ตัดออกได้ตามชอบนะคะ ไม่ครบไม่เป็นไรเอากลิ่นที่เราชอบ ที่เราทานแล้วอร่อยค่ะ 

วิธีทำ

  • เอาหม้อตั้งไฟ ใส่กะทิลงหม้อประมาณ 125 มิลลิลิตร 
  • ใส่พริกแกงลงผัดกับกะทิ ถ้าใส่กะทิเยอะไปจะเป็นการต้มพริกแกงพริกแกงจะไม่ออกสี แกงจะไม่สีสวยค่ะ ต้องผัดก่อนนะคะ ผัดให้แตกมัน แต่วันนนี้เจี๊ยบใช้กะทิขวด กะทิสำเร็จรูปเค้าจะไม่ค่อยแตกมันเหมือนกะทิสด เจี๊ยบเลยใช้วิธีผัดให้แห้ง ๆ ให้พริกไหม้ ๆ หน่อยพริกจะได้ออกสีสวยค่ะ
  • หลังจากผัดพริกแกงได้ที่แล้ว ใส่น้ำกะทิที่เหลือค่ะ แล้วผัดต่อจนกะทิเดือด
  • ใส่หมูลงผัดพอสุก
  • ใส่น้ำสะอาด แล้วต้มจนเดือด
  • ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา (น้ำปลาอาจจะไม่ต้องใส่เยอะ ถ้าเกลือ กับ กะปิที่ใช้โขลกพริกแกงเค็มมากแล้ว เกลือแต่ละชนิด กับกะปิ ต่างที่มาความเค็มจะต่างกันค่ะ แต่ถ้าไม่เค็ม ใส่น้ำปลาเพิ่มได้ค่ะ) 
  • ใส่สับประรด หลังจากใส่สับปะรดแล้วไม่ต้องต้มนานนะคะ สับปะรดจะเละและออกรสเปรี้ยวมากไปต้มสักแป๊ปนึงให้สับปะรดออกรสเปรี้ยว แล้วชิมรสค่ะ แกงจะออกรสเปรี้ยว เค็ม หวาน ถ้ารสชาติยังไม่ถูกใจปรุงเพิ่มได้ตามชอบค่ะ  ถ้าสับปะรดที่ใช้ไม่เปรี้ยวใส่น้ำมะขามเปียกเพิ่มได้นะคะ
  • หลังจากได้รสชาติที่ถูกใจแล้ว ใส่พริกแดงซอยค่ะ ตามด้วยใบมะกรูด จากนั้นปิดไฟเตา ใส่ใบโหระพา  แล้วตักเสริฟได้ค่ะ

คลิปวิดีโอ วิธีการทำ

สามารถกดที่คลิปแล้วเข้าไปดูผ่านทางช่อง YouTube ได้นะคะ






สามารถติดตามเจี๊ยบได้ทางช่องทางอื่น 
ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ 


https://www.youtube.com/barnfinfin
on ไม่มีความคิดเห็น:

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

How to สูตร วิธีทำ ขนมถ้วย ขนมไทย ของหวานไทย ของว่างไทย สูตรอาหาร สูตรขนม บ้านฟินฟิน finfincooking barnfinfin

ขนมถ้วย

*   มีคลิปวิดีโอวิธีการทำ อยู่ด้านล่างนะคะ


มีสูตรสำหรับ 60 ถ้วย คลิปใหม่ถ่ายทำใหม่ กดดูที่นี่ได้เลยนะคะ >> ขนมถ้วยใบเตยหน้ากะทิ 



ส่วนผสม / ingredients สูตรสำหรับ 30 ถ้วยค่ะ
ตัวขนม
  1. แป้งข้าวเจ้า 60 กรัม / 60 g. Rice flour.
  2. แป้งมัน 10 กรัม / 10 g. Tapioca Starch.
  3. แป้งถั่วเขียว 5 กรัม / 5 g. Mung bean Starch. 
  4. น้ำตาลมะพร้าว 120 กรัม / 120 g. Coconut Palm Sugar.
  5. น้ำใบเตย 300 มิลลิลิตร / 300 ml. Pandan Juice.
    * ได้จากการปั่นใบเตยแก่ 50 กรัม กับน้ำ 400 มิลลิลิตร เจี๊ยบปั่นเผื่อนิดน่อยค่ะ เผื่อเหลือเผื่อขาด แต่ใช้จริงแค่ 300 มิลลิลิตร

    * ตัวขนมเจี๊ยบจะไม่ใส่กะทินะคะ ถ้าใครชอบก็ใส่กะทิไปด้วยก็ได้ค่ะ    * แป้งมันใส่ให้ตัวขนมเหนียวและใสขึ้นนิดหน่อยค่ะ
    * แป้งถั่วเขียวใส่ให้ตัวขนมคงตัวค่ะ
    * ทั้งแป้งมันและแป้งถั่วเขียวไม่แนะนำให้ใส่เยอะกว่านี้นะคะ เพราะจะทำให้ตัวขนมเหนียวไปค่ะ 
กะทิ หน้าขนม
  1. แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม / 50 g. Rice flour.
  2. น้ำตาลทราย 30 กรัม / 30 g. Sugar.
  3. เกลือ 5 กรัม / 5 g. Salt. 
  4. กะทิ 500 มิลลิลิตร / 500 g. Coconut Milk.
    * ได้จากการปั่น มะพร้าวขูด 400 กรัม กับน้ำอุ่น 400 มิลลิลิตร เนื่องจากในเนื้อมะพร้าวมีน้ำอยู่แล้ว พอปั่นออกมาของเจี๊ยบได้น้ำกะทิ ทั้งหมด 500 มิลลิลิตรค่ะ ถ้าของใครไม่ถึงก็เพิ่มน้ำไปอีกนะคะ เนื้อมะพร้าวกับน้ำในเนื้อมะพร้าวแต่ละลูกจะไม่เท่ากันค่ะ เผื่อปั่นออกมาแล้วได้ไม่เท่ากันกับของเจี๊ยบค่ะ

    *  หน้าขนมเจี๊ยบจะไม่ใส่ แป้งมัน และแป้งถั่วเขียวนะคะ ไม่อยากให้หน้ากะทิเหนียวและคงตัวค่ะ อยากให้หน้ากะทิแตกฟูหน่อย ๆ ค่ะ 

วิธีทำ

  • หน้าขนม ผสมแป้ง ข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือ และกะทิ ในอ่างผสม คนให้เข้ากัน ให้ส่วนผสมทุกอย่างละลาย แล้วพักไว้

  • ตัวขนม ผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลมะพร้าว แป้งมัน แป้งถั่วเขียว กับน้ำใบเตย นิดหน่อย (ประมาณ 80 มิลลิลิตร)  แล้วนวดให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายเข้ากัน เจี๊ยบนวดแป้งประมาณ 5-10 นาที (การนวดแป้งก่อนจะทำให้ตัวขนมไม่แตกเวลานำไปนึ่งไฟแรงค่ะ) 
  • นวดแป้งครบแล้ว ใส่น้ำใบเตยที่เหลือ ลงคนให้เข้ากันค่ะ

  • นำน้ำใส่หม้อนึ่งตั้งไฟ นำถ้วยมานึ่งให้ร้อน เพื่อไม่ให้ขนมติดถ้วย
  • พอถ้วยขนมร้อนแล้วลดไฟลง เพื่อหยอดตัวขนม ก่อนหยอดคนแป้งก่อนนะคะ แป้งจะตกตะกอนนอนก้นอยู่ค่ะ  หยอดตัวขนมครึ่งถ้วยค่ะ ไม่ต้องหยอดเต็มถ้วย (ถ้าไม่ลดไฟลงเวลาหยอดไอน้ำร้อนจะพุ่งใส่มือนะคะ)
  • พอหยอดตัวขนมเสร็จแล้ว ปิดฝาหม้อ เร่งไฟให้แรงขึ้น นึ่งขนมไฟแรง 8-10 นาที หรือจนกว่าแป้งขนมจะสุก (ถ้าแป้งไม่สุกเวลาหยอดหน้ากะทิ  กะทิกับตัวขนมจะไหลปนกัน)  ย้ำว่าต้องใช้ไฟแรงนะคะ เพื่อให้ตัวขนมนุ่มฟู ถ้าใช้ไฟอ่อนนึ่ง  ตัวขนม จะด้าน จะแข็ง ไม่อร่อยค่ะ
  • นึ่งครบ 8 -10 นาทีแล้วเปิดฝาหม้อ ลดไฟลง แล้วหยอดหน้ากะทิ หยอดให้เสมอขอบถ้วยค่ะ
  • พอหยอดเสร็จแล้วปิดฝาหม้อเร่งไฟให้แรงขึ้น นึ่งไฟแรง อีก 8-10 นาทีค่ะ 
  • จากนั้นตักออกจากหม้อนึ่ง จัดเสริฟได้ค่ะ  


    การนึ่งไฟแรงจะทำให้แป้งขนมขึ้นฟู แต่ไม่แตกกระจาย หากนวดแป้งเป็นเวลานานพอ พอนึ่งจนสุกเปิดฝาซึ้ง แป้งจะยุบตัวลง มีลักษณะขรุขระแบบในภาพด้านล่างนะคะ หากตัวขนม หน้าขนม ผิวยังเรียบเนียน แสดงว่าใช้ไฟอ่อนไปในการนึ่ง ทำให้ตัวขนมไม่ขึ้นฟู ทำให้แป้งขนมแข็ง กระด้าง สำคัญที่ไฟต้องแรงพอ จะช่วยให้ขนมของเราขึ้นฟู เหนียว นุ่ม อร่อย 




คลิปวิดีโอ วิธีการทำ

สามารถกดที่คลิปแล้วเข้าไปดูผ่านทางช่อง YouTube ได้นะคะ




on ไม่มีความคิดเห็น:

วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

How to แพนเค้ก ข้าวโอ๊ต แพนเค้ก เฮลตี้ อาหารสุขภาพ ของหวาน เฮลตี้ สูตรอาหาร บ้านฟินฟิน finfincooking


แพนเค้กข้าวโอ๊ต

*   มีคลิปวิดีโอวิธีการทำ อยู่ด้านล่างนะคะ


ส่วนผสม /Ingredients


 1. ข้าวโอ๊ต 150 กรัม / 150 g. Quick Cooking Oats.
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง / 1 Egg.
3. นมสด 150 มิลลิลิตร / 150 ml. Fresh milk.
4. น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนชา / 1 tsp. Rice bran oil.
5. ผงฟู 1 ช้อนชา / 1 tbsp. Baking powder.
6. เนยถั่ว / Creamy Peanut Butter as you like.
7. ผลไม้ตามชอบ / Fruit as you like.
8. น้ำผึ้ง / Honey as you like.
9. น้ำตาลไอซิ่ง / Icing sugar as you like.


วิธีทำ
  • ปั่นข้าวโอ๊ตให้ละเอียด (ถ้าไม่มีเครื่องปั่น เอาข้าวโอ๊ตแช่น้ำให้เปื่อยก่อนก็ได้ค่ะค่อยเอามาทำ แต่เนื้อสัมผัสก็จะต่างกันนะคะ ปั่นก็จะละเอียดกว่าค่ะ)
  • ปั่นเสร็จแล้วเทใส่ในชามผสม 
  • ใส่ไข่ไก่ นมสด แล้วตีให้เข้ากันค่ะ (ถ้ากลัวคาวไข่ ใส่กลิ่นวานิลลาลงไปด้วยก็ได้นะคะ แต่เจี๊ยบไม่ได้ใส่ ส่วนตัวรู้สึกว่าไม่คาวค่ะ เพราะมีความหอมจากเนยถั่ว และความเปรี้ยวหวานจากผลไม้และน้ำผึ้งช่วยค่ะ  * นมใช้เป็นมอย่างอื่นก็ได้ค่ะ ตามชอบนะคะ )
  • ใส่น้ำมันรำข้าว (น้ำมันรำข้าวช่วยให้แพนเค้กนุ่มขึ้นไม่แข็งกระด้างเกินไป และไม่ติดกระทะด้วยค่ะ ใส่มากกว่าของเจี๊ยบหน่อยก็ได้ค่ะ จะได้นุ่มขึ้นอีก)
  • ใส่ผงฟู (ช่วยให้แพนเค้กขึ้นฟูค่ะ ไม่ใส่ก็ได้คะ่ ถ้าไม่มี แต่อาจจะไม่หน้าฟูเหมือนของเจี๊ยบนะคะ)
  • เอากระทะตั้งไฟให้ร้อน ใช้ไฟอ่อนทำนะคะ 
  • เทแป้งแพนเค้กลงกระทะให้แผ่เป็นวงกลม ขนาดตามชอบนะคะ ถ้าแป้งสุกแป้งจะมีรูขึ้นมา ลักษณะเหมือนฟองอากาศค่ะ  ถ้าเห็นมีรูผุดขึ้นมาหลายรู ๆ แล้วกลับด้านได้ค่ะ  * จะสังเกตเห็นว่าเจี๊ยบไม่ได้ปรุงรสเค็มหวานในแป้งแพนเค้กเลยนะคะ เพราะเจี๊ยบจะทานกับเนยถั่ว ผลไม้ และน้ำผึ้งค่ะ
  • นำแป้งแพนเค้กที่ทำเสร็จแล้วทาเนยถั่วทีละแผ่น แล้วจัดวางซ้อนกันในจาน ตกแต่งจานด้วยผลไม้ตามชอบ ราดด้วยน้ำผึ้ง และ โรยน้ำตาลไอซิ่งตกแต่งอีกหน่อยให้สวยงาม ตามชอบเลยนะคะ 

สามารถติดตามเจี๊ยบได้ทางช่องทางอื่น 
ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ 









on ไม่มีความคิดเห็น:
สมัครสมาชิก: บทความ (Atom)